วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Review - Canon 70D

กล้องตระกูล EOS หรือกล้องที่เปลี่ยนเลนส์ได้ของ Canon นั้นเป็นคู่มือคู่ใจของมืออาชีพมายาวนานหลายสิบปีครับ ด้วยคุณภาพกล้องชั้นเยี่ยม เลนส์ระดับสุดยอดที่มีให้เลือกเป็นตั้ง จนเป็นยี่ห้อแรกๆ ที่คนเริ่มเล่นกล้องระดับ DSLR จะเลือกใช้ครับ
Canon EOS จะแบ่งระดับกล้องออกเป็น 5 กลุ่มหลักๆ ตามระดับของการถ่ายภาพ (และระดับเงินในกระเป๋านะครับ ตั้งแต่กล้องตัวเล็ก ราคาเบาๆ สำหรับช่างภาพสมัครเล่นอย่าง EOS 100D หรือ EOS 700D ไปถึงกล้องกึ่งโปรอย่าง EOS 5D Mark III และกล้องโปรอย่าง EOS 1D X ซึ่ง EOS 70D ตัวใหม่ที่เพิ่งออกตอนนี้จัดเป็นกล้องระดับกลาง ที่ความสามารถสูงและราคาไม่แพงจนเกินไปครับ



EOS 70D นั้นเป็นกล้องที่ออกมาแทน EOS 60D รุ่นยอดนิยมที่ออกมาตั้งแต่ปี 2010 ครับ ซึ่งการปรับปรุงของของ 70D นั้นต้องบอกว่าถูกใจสาวกที่ใช้กล้อง DSLR ถ่ายวิดีโอแน่นอนครับ คือ

- Dual Pixel CMOS Autofocus เทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ตัวรับภาพในการตรวจหาโฟกัส ทำให้ระบบโฟกัสอัตโนมัติทำงานเร็วขึ้นมากเวลาถ่ายวิดีโอหรือถ่ายแบบ Live-view mode (ถ่ายโดยมองภาพจากจอหลัง ไม่ได้มองจากช่องมองภาพ) อ่านรายละเอียดเทคโนโลยีนี้แบบเนิร์ดๆ ข้างล่าง
- เพิ่มความละเอียดกล้องเป็น 20.2 ล้านพิกเซล (60D ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล)
- ความไวแสงสูงสุดเพิ่มเป็น 12,800 และขยายได้สุดที่ 25,600 (60D ทำได้แค่ 6,400 แล้วขยายเป็น 12,800)
- ใช้ชิปประมวลผล DIGIC 5+ แทน DIGIC 4 เดิม ทำให้ถ่ายภาพได้เร็วขึ้น
- ใช้ระบบโฟกัสแบบ Cross-type 19 จุด (ของ 60D มี 9 จุด)
- ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 7 ภาพต่อวินาที (60D ถ่ายได้ 5.3 ภาพต่อวินาที)
- จอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว (ของเดิมไม่ใช่จอสัมผัส)
- มี Wifi ในตัว เพื่อส่งภาพไปคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนแบบไม่ต้องต่อสาย หรือจะสั่งถ่ายรูปผ่านแอพก็ได้ (รุ่นเดิมไม่มี)
- เพิ่มโหมด HDR, Multi Exposure

ปัญหาโฟกัสอัตโนมัติไม่ได้เรื่องเวลาถ่ายวิดีโอก็น่ารับการปรับปรุงในรุ่นนี้แล้วนะครับ ใครที่สนใจ Canon 70D ก็จะเริ่มจำหน่ายปลายเดือนสิงหาคมนี้ ราคากล้องอย่างเดียวอยู่ที่ $1199 หรือประมาณ 37,500 บาท ส่วนรวมเลนส์คิท EF-S 18-55mm ขาย $1349 หรือราว 42,000 บาทครับ ก็รอราคาอย่างเป็นทางการในไทยอีกทีนะ



Nerd Talk! เจ้า Dual Pixel CMOS Autofocus มันคืออัลลัย
หนึ่งในเทคโนโลยีใหม่ที่ Canon ใส่เข้ามาใน 70D เป็นครั้งแรกคือระบบช่วยโฟกัสตัวนี้แหละครับ ซึ่งก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่าการค้นหาโฟกัสอัตโนมัติที่ใช้ในปัจจุบันนั้นมี 2 แบบคือ

Contrast detection ใช้ในกล้องทั่วไป ทำงานโดยหมุนเลนส์ไปเรื่อยๆ จนกว่าขอบวัตถุในภาพจะคม สีตัดกันมากที่สุด ข้อดีคือทำงานได้ด้วยตัวเซนเซอร์รับภาพเอง ไม่ต้องติดตั้งอุปกรณ์พิเศษในกล้อง ทำให้ราคาถูก แต่ข้อเสียคือโฟกัสช้า ถ่ายภาพที่เคลื่อนไหวเร็วๆ ไม่ทันการณ์
Phase detection เทคนิคการหาโฟกัสภาพที่ใช้มายาวนาน ในกล้องรุ่นพ่อก็มี เป็นเทคโนโลยีที่แยกแสงจากเลนส์เป็น 2 เส้น ให้วิ่งเข้าเซ็นเซอร์โฟกัสซ้าย-ขวา แล้วเอาแสงมาเทียบกันว่ามันต่อกัน มันมีลักษณะเดียวกันหรือไม่ ถ้าไม่ก็หมุนเลนส์จนกว่าจะใช่ ข้อดีคือทำงานเร็วมาก ถ่ายรูปนักวิ่งหวังผลได้ แต่ข้อเสียคือมันแพง เพราะต้องมีเซ็นเซอร์ตรวจโฟกัสอีกตัวหนึ่ง



ซึ่งปกติในกล้อง DSLR ทั่วไปก็ใช้ Phase Detection เพื่อหาโฟกัสอัตโนมัติกันทั้งนั้นแหละครับเพราะมันเร็ว แต่มันไม่ได้ทำงานตลอดเวลานะ กล้องจะใช้โหมด Phase Detection ได้เฉพาะการถ่ายผ่าน Viewfinder เท่านั้น เพราะการออกแบบกล้องทำให้แสงต้องสะท้อนผ่านกระจกในกล้องเพื่อแยกแสงขึ้นไป Viewfinder กับแสงอีกส่วนที่จะไปยังระบบโฟกัสอัตโนมัติ ดังนั้นเมื่อถ่ายวิดีโอที่ต้องยกกระจกขึ้น แล้วดูภาพผ่านจอหลัง จึงโฟกัสได้แค่แบบ Contrast detection ที่ช้ากว่าเท่านั้น ถ้าใครที่เคยใช้กล้อง DSLR จะรู้นะครับว่าถ้าถ่ายแบบมองภาพผ่านจอหลัง (Live-view) มันโฟกัสช้าขนาดไหน



ซึ่ง Dual Pixel CMOS Autofocus ของแคนอนคือเซนเซอร์รับภาพแบบใหม่ที่แบ่งพิกเซลรับภาพเป็น 2 ส่วนแยกซ้าย-ขวา เพื่อเทียบแสงซ้าย-ขวาแบบเดียวกับ Phase detection ครับ ทำให้กล้องหาโฟกัสได้เร็วมาก แม้จะถ่ายวิดีโออยู่ครับ

ที่มา: http://buff.ly/15cRlNH

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น