วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Review - Canon 100D


Canon EOS 100DCanon EOS 100D top view

    Highlight Features จุดเด่นของกล้อง EOS 100D
    กล้อง DSLR ที่เล็ก และเบาที่สุดในโลก เปี่ยมด้วยคุณสมบัติระดับรุ่นท๊อป สำหรับผู้ใช้งานมือใหม่ ชุด EOS 100D + เลนส์ EF 40mm f2.8 STM ราคาเปิดตัว 26,900 บาท

  • เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ความละเอียด 18 ล้านพิกเซล
  • ชิปประมวลผล DIGIC 5
  • ความไวแสงกว้างถึง ISO 100 – 12,800 (ขยายได้สูงสุด ISO 25,600)
  • ภาพเคลื่อนไหวระดับ Full HD
  • ขนาดเล็กเพียง 116.8 ม.ม. x 90.7 ม.ม. x 69.4 ม.ม. (หรือกว้างประมาณ iPhone 4 / 4s)
  • น้ำหนักตัวกล้องเพียง 370 กรัม (หรือหนักประมาณ น้ำอัดลม 1 กระป๋อง)
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องถึง 4 ภาพต่อวินาที ในระบบปกติ
  • ถ่ายภาพต่อเนื่องในระบบระบบถ่ายภาพเงียบ ได้ที่ 2.5 fps (ครั้งแรกในกล้องระดับล่าง)
  • โฟกัส 9 จุด (เป็น Cross Type ที่จุดกลาง รองรับเลนส์ที่มีความไวแสงถึง f/2.8)
  • ชัดเจน ด้วยช่องมองภาพ (View Finder) ครอบคลุม 95%, อัตราขยาย 0.87 เท่า
  • ระบบวัดแสงแบ่งละเอียดถึง 63 โซน แบบ Dual Layer
  • แสดงความคมชัด ด้วยจอ LCD เทคโนโลยี Clear View II ขนาด 3 นิ้ว
  • Hybrid CMOS AF II ช่วยให้การโฟกัสรวดเร็ว และแม่นยำ โดยเฉพาะในโหมด Live View และ Movie
  • เพิ่ม Scene Mode อัตโนมัติใหม่ คือ การถ่ายภาพอาหาร ภาพเด็ก และ ภาพภายใต้แสงเทียน
  • รวมถึงฟังก์ชั่น Extra Effect Shot ควบคุมความเบลอฉากหลังได้ดั่งใจ
  • Creative Filter ที่มีให้เลือกถึง 8 แบบ (สำหรับภาพนิ่ง) และ 1 แบบ (สำหรับภาพเคลื่อนไหว)
  • Video Snapshot ตัดต่อ จัดเรียง คลิปภาพเคลื่อนไหวที่บันทึก
     
กล้อง DSLR จิ๋วแจ๋วเจาะโลก แนวคิดใหม่ของกล้อง EOS ค่ายหนอน

กระแสกล้องตัวเล็กแต่ฤิทธิเยอะ ได้เกาะกุมตลาดกล้องมานานหลายปี โดยเฉพาะกระแสของกล้องแบบ Mirrorless (กล้องเปลี่ยนเลนส์ได้ ที่ไม่ใช่กล้อง DSLR) ที่มาแรงมากใน 2-3 ปีหลัง ซึ่งแม้จะมีข้อดีหลายประการ แต่จุดอ่อนที่สำคัญที่สุดสำหรับกล้องแบบ Mirrorless โดยทั่วไปก็คือ การที่ต้องถ่ายภาพด้วย การมองจอภาพด้านหลังกล้องเพียงอย่างเดียว ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงแดดแรงๆ ที่สว่างจ้ามากๆไม่ดี เพราะเราจะมองภาพบนจอไม่ค่อยเห็น แต่ผิดกล้องกล้อง DSLR ที่เรามองภาพจากช่องมองภาพเป็นหลัก จึงไม่มีปัญหาอะไรเวลาใช้งานกลางแจ้ง กลางแดดแรงๆ นี่คือจุดแข็งที่สำคัญของกล้องแบบ DSLR และเมื่อพูดถึงกล้องแบบ DSLR ผู้นำของกล้องแบบนี้ก็คือ Canon นั่นเอง

การที่ Canon มองจุดแข็งของตัวเองในตลาดกล้อง DSLR และ การพลิกดูจุดอ่อนคู่ต่อสู้ในตลาดกล้องแบบ Mirrorless ที่ มีหลายค่ายลงมาอย่างเต็มตัว แม้ว่าทาง Canon เองก็มีกล้องแบบ Mirrorless มาเจาะตลาดกับเขาอยู่บ้างเหมือนกัน อย่าง EOS M แต่เพื่อความชัวร์ เสือเก๋าเกมส์อย่าง Canon จึงออกหมัดเด็ดตามมา ในสิ่งที่ตัวเองถนัดที่สุด คือ กล้อง DSLR ตัวเล็ก แบบชกตรงเข้าปลายคางคู่ต่อสู้ แบบเน้นๆไปที่ Mirrorless เป็นหลัก

ให้คู่แข่งที่มี Mirrorless เยอะๆต้องหน้าหงายไปบ้างเหมือนกัน หมัดเด็ดที่ผมกล่าวถึงนี้ ก็คือ Canon EOS 100D กล้อง DSLR จิ๋วแจ๋วตัวล่าสุดจากค่ายหนอน ที่เหมือนจะออกมาตอบโจทย์ คนที่ชอบกล้องเล็กๆ เซ็นเซอร์ใหญ่ๆ ถ่ายชัดตื้นได้ คุณภาพดี แต่แอบเซ็งการถ่ายด้วยกล้อง Mirrorless ในที่แดดจ้า ที่มองอะไรบนจอไม่ค่อยจะเห็นเลย งั้นก็ไม่ต้องใช้ Mirrorless ใช้ DSLR ต่อไป แต่ Canon ทำ EOS 100D กล้อง DSLR ตัวเล็กๆ เท่ากับ Mirrorless มาให้ใช้กันแล้ว



ดูจาก spec โดยรวม และจากการใช้งานแล้ว และในฐานะที่เคยใช้กล้อง Canon EOS 650D มาก่อน ต้องบอกเลยว่า มันคือกล้อง Canon EOS 650D ที่โดนจับมาย่อ ด้วยไฟฉายย่อส่วนของโดเรม่อน ออกมาเป็นเจ้า Canon EOS 100D นั่นเอง ยกเว้นจอภาพที่ติดตายตัว ไม่ใช่แบบบิดได้เหมือนกับ Canon EOS 650D

แต่คุณสมบัติของกล้อง ขนาดภาพที่ได้ 18 ล้านพิกเซลที่ความละเอียด 5184 x 3456 pixel เท่ากันเป๊ะ ที่จำได้เพราะเลขตัวหลังนี่แหละ มันเรียงกัน จนน่าจะเอาไปแทงล็อตเตอรี่เสียจริงๆ 3456 ไล่เรียงกันพอดิบพอดี และคุณสมบัติด้านจอระบบสัมผัส ลักษณะเดียวกับ Canon EOS 650D จะมีต่างไปนิดหน่อย ตรงปุ่ม Q หรือ Quick Menu ปุ่มนี้จะหายไป แต่จะใช้ปุ่มเดียวกับปุ่ม OK ตรงกลางปุ่มลูกศรแทน อาจจะเพราะพื้นที่ในการวางปุ่ม หดหายไปบ้างนั่นเอง ซึ่งก็สามารถใช้ปุ่มบนจอทัชสกรีนทดแทนได้
Canon EOS 100D
วางบนมือแล้วตัวบอดี้ (ไม่รวมเลนส์) Canon EOS 100D วางอยู่ในอุ้งมือได้ทั้งหมด ถือว่าเป็นกล้อง DSLR ที่เล็กมากๆ
Canon EOS 100D


ตัวเล็ก เล็กแค่ไหน ? ทาง Canon เขาระบุมาในเอกสารว่าดังนี้

  • ขนาดเล็กเพียง 116.8 ม.ม. x 90.7 ม.ม. x 69.4 ม.ม. (หรือกว้างประมาณ iPhone 4 / 4s)
  • น้ำหนักตัวกล้องเพียง 370 กรัม (หรือหนักประมาณ น้ำอัดลม 1 กระป๋อง)

    แต่ผมแถมให้อีก จากที่ได้ลองเล่นๆจับๆ และเอามาเทียบดู ดังนี้
  • วางเทียบกับบัตร ATM แล้วใหญ่กว่านิดเดียว
  • มีความยาวของตัวกล้อง ใกล้เคียงกับแบงค์ 20 บาท
  • ลองวางกล้อง(ไม่รวมเลนส์)ไว้บนมือข้างเดียว(ของผม)แล้วไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งเลยออกจากมือออกมา
  • ถอดเลนส์ออกแล้ว ใส่ในกระเป๋ากางเกงยีนส์(ผู้ชาย)ทรงมาตรฐานได้ (เกือบเผลอใส่กระเป๋ากลับบ้านมาด้วยเลยตอนลอง)
  • (แอบได้ยินเสียงคนอื่นคุยกันดังๆมาว่า) เอาไปใส่กับเลนส์ส่องนกแล้ว เหมือน EOS 100D เป็นฝาปิดท้ายเลนส์มากกว่า

    ก็ลองเอาไปจินตนาการเองนะครับ ว่ามันเล็กแค่ไหน ทางที่ดี ก็ไปลองจับตัวเป็นๆ ที่ร้านค้ากันดูนะครับ ของแบบนี้ต้องลองเองกับมือ แล้วจะเข้าใจได้เองว่ามันเล็ก และเบาขนาดไหน

    ครั้งแรก กับชัตเตอร์แบบเงียบ ในกล้อง Entry-level
    เวลาที่เราต้องถ่ายภาพด้วยกล้อง DSLR ในห้องที่เงียบๆ โดยเฉพาะในห้องประชุม หรือภายในงานสัมมนา สิ่งหนึ่งที่ตากล้องจะกังวล ก็คือเสียงชัตเตอร์ อาจจะดังรบกวนสถานที่นั่นๆได้ และเขาอาจจะห้ามไม่ให้คุณถ่ายภาพ (เพราะเสียงชัตเตอร์ดังรบกวน) หรือ ท่านที่ถ่ายภาพสัตว์ ภาพนก เสียงชัตเตอร์อาจจะทำให้สัตว์ หรือนกตื่นตกใจ และหนีไปได้ ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน จะมีเฉพาะแต่กล้อง DSLR ระดับโปรๆเท่านั้น ที่จะมีระบบชัตเตอร์เงียบไว้ให้ใช้งาน ในสถานการณ์ที่ต้องการความเงียบขณะถ่ายภาพ

    แต่ Canon EOS 100D ถือว่าเป็นกล้อง DSLR ระดับล่าง (Entry-level) ตัวแรก ที่ใส่คุณสมบัติด้านชัตเตอร์เงียบนี้มาให้ด้วย แถมยังเป็นชัตเตอร์เงียบที่ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ที่ 2.5 ภาพต่อวินาที ซึ่งเร็วเพียงพอสำหรับงานทั่วไป แต่ได้ความเงียบเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และที่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องซื้อกล้องแพงๆ เพื่อให้ได้คุณสมบัติข้อนี้อีกต่อไป

    อย่างไรก็ตาม การที่ Canon เพิ่มระบบนี้เข้ามาในกล้อง DSLR ระดับล่างอย่าง EOS 100D นี้ ยิ่งทำให้ผม มั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า Canon ทำกล้อง EOS 100D ตัวนี้ออกมา "เพื่อท้าชนกับกล้องแบบ Mirrorless" โดยเฉพาะ เพราะนี่เป็นอีกจุดหนึ่ง ที่คู่แข่งที่เน้นทำกล้องแบบ Mirrorless โจมตีกล้องแบบ DSLR เสมอมาว่า ชัตเตอร์เสียงดัง (เพราะกล้องแบบ Mirrorless เสียงชัตเตอร์เบากว่ามาก) จึงไม่แปลกใจที่จะมี ระบบชัตเตอร์เงียบ มาให้ใช้งานในกล้อง Canon EOS 100D เพื่อไปท้าชน แข่งกับกล้องแบบ Mirrorless จะได้เลิกมายุ่งกับเรื่อง เสียงชัตเตอร์ของกล้อง DSLR เสียที เพราะมันเงียบแล้ว ไม่ดังแล้ว นั่นเอง

    จากที่ได้ลองถ่ายระบบ ชัตเตอร์เงียบ โดยผมแอบถ่ายภาพรัวๆที่ 2.5 fps ในขณะที่ ผู้บรรยายของทาง Canon กำลังพูดอยู่ ปรากฏว่า ไม่ค่อยมีใครสังเกตว่า ผมกำลังลั่นชัตเตอร์อยู่ นอกจากคนข้างๆผมเท่านั้น ที่แอบเหล่สายตามาว่า ตานี่มันรัวอะไรอยู่เท่านั้นเอง แสดงว่าเงียบจริงไรจริงครับ .. คอนเฟิร์ม !!


    ระบบ Multi Shot Noise Reduction Function ช่วยถ่ายภาพในที่แสงน้อย
    สำหรับคุณสมบัติอื่นๆ ที่เพิ่มเข้ามา แม้ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ดีใจที่มี โดยเฉพาะเมื่อมาอยู่ในกล้องระดับล่างๆ สำหรับมือใหม่ใช้งานอย่างนี้ Multi Shot Noise Reduction Function เป็นสิ่งที่จำเป็น และช่วยชีวิตภาพถ่ายของมือใหม่ไว้ได้มาก เพราะสิ่งที่มือใหม่กลัว หรือถ่ายภาพยากที่สุด ก็คือ การถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือถ่ายภาพตอนกลางคืนนี่แหละ และระบบ Multi Shot Noise Reduction Function นี่ก็ช่วยได้จริงๆ นอกจากจะได้ภาพที่ชัด ไม่สั่นไหวแล้ว ยังช่วยให้ได้ภาพที่มีสัญญานรบกวน หรือ noise ที่ต่ำ โดยใช้การรัวภาพ 4 ภาพติดๆกัน แล้วจึงรวมทั้ง 4 ภาพ (ในมุมเดียวกันนี้) เข้าเป็นภาพๆเดียว ที่มี noise ต่ำกว่าการถ่ายภาพเพียงภาพเดียว

    มีข้อน่าสังเกตเล็กน้อย เกี่ยวกับระบบ Multi Shot Noise Reduction Function นี้ก็คือ ท่านควรถือกล้องให้นิ่งๆ ในขณะที่ถ่ายภาพ เพราะกล้องจะรัวถ่ายภาพติดๆกันหลายๆภาพ อย่าตกใจ และอย่าขยับกล้องเสียก่อนที่กล้องจะถ่ายจนเสร็จเรียบร้อย และ ภาพสุดท้ายที่ได้ จะมีมุมมอง "แคบกว่า" การถ่ายภาพตามปกติเล็กน้อย ตรงส่วนนี้ ผมคาดว่าระบบจะตัดบริเวณขอบของภาพออกไปเล็กน้อย ในระหว่างการคำนวณเพื่อรวมภาพหลายๆภาพ เป็นภาพเดียว เราจึงควรเผื่อเหลือบริเวณขอบ ในขณะถ่าย ให้กว้างกว่าปกติเล็กน้อย เพื่อที่เวลากล้องตัดภาพบริเวณขอบออกไปแล้ว ยังได้ภาพอย่างที่เราต้องการ ซึ่งตรงนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เพียงใช้งานสักพักก็คุ้นเคยแล้วครับ เรียกได้ว่า แทบจะลืมขาตั้งไปเลย เวลาถ่ายภาพตอนกลางคืน

    ...
  • ไม่มีความคิดเห็น:

    แสดงความคิดเห็น