วันพุธที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Review - Canon EF 300 mm F/4L IS USM

แคนนอนผลิตเลนส์ EF 300mm f/4L ออกสู่ตลาดมาเกือบสองทศวรรษแล้ว พร้อมๆ กับกล้องฟิล์มในอนุกรมEOS และมันก็อยู่ในสายการผลิตนาน ได้รับความนิยมมากพอควร เพราะขนาดกะทัดรัด น้ำหนักเบาพอที่จะถือถ่ายด้วยมือได้ และราคาค่อนข้างเป็นมิตร แต่ในการใช้งานด้วยการถือมือเปล่า จะต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงเพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด ซึ่งความเร็วชัตเตอร์ต่ำสุดที่พอจะถือด้วยมือเปล่า ต้องอยู่ที่ประมาณ 1/250 วินาทีขึ้นไปเมื่อพบสภาพแสงน้อยทำให้ภาพที่บันทึกมักจะเบลอเพราะกล้องสั่นไหว ดังนั้นแคนนอนจึงพัฒนาเลนส์รุ่นใหม่โดยใส่ระบบ Image Stabilizer (IS) เข้าไปเพื่อลดการสั่นไหว ทำให้สามารถใช้ความเร็วชัตเตอร์ต่ำกว่ากฎ 1/ทางยาวโฟกัส ได้ 2 สตอป คือความเร็วชัตเตอร์ประมาณ 1/60 วินาที
สำหรับช่างภาพเอาท์ดอร์ที่ต้องการเลนส์ 300mm ไว้ถ่ายภาพสัตว์ ภาพนก หรือทิวทัศน์ระยะไกล ระบบ IS จะช่วยได้มากเพราะเรามักจะพบปัญหาเรื่องสภาพแสงน้อย และระบบ IS จะช่วยให้ได้ภาพที่คมชัด
ระบบ IS ของเลนส์มี 2 โหมด MODE 1 ออกแบบสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยเซ็นเซอร์จะทำงานทั้ง 2 แกน ส่วนMODE 2 นั้นออกแบบสำหรับการแพนกล้อง เซ็นเซอร์ของระบบ IS จะทำงานเฉพาะแกน Y เนื่องจากการแพนกล้อง จะเคลื่อนกล้องในแนวระนาบ
โครงสร้างและการออกแบบเลนส์รุ่นนี้แม้จะใส่ระบบ IS เข้าไป แต่ยังออกแบบให้เลนส์มีขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เพื่อให้เป็นเลนส์ที่เหมาะสำหรับการถือด้วยมือเปล่าเช่นเดิม การออกแบบภายนอกทำได้ดี ไม่เรียบเป็นท่อเหมือนเลนส์ 300mm บางยี่ห้อ แต่ทำสโลปในแต่ละส่วนได้ลงตัว สวยงาม ส่วนท้ายเลนส์วางสวิทช์ปรับเลือกโหมดโฟกัส AF/MF ไว้ ถัดมาเป็นคอลลาร์ที่สามารถถอดออกได้ ช่วงกลางของกระบอกใช้แสดงระยะโฟกัสในช่องพลาสติกใส มีป้ายโลหะสีเงินแสดงชื่อรุ่นของเลนส์ ด้านซ้ายเป็นสวิทช์เปิดปิดการทำงานของระบบ IS และสวิทช์เลือกโหมด IS
  

วงแหวนโฟกัสวางอยู่ส่วนกลางของกระบอกมีขนาดค่อนข้างใหญ่ หุ้มด้วยยางลายเส้นเซาะร่องรอบวง ปรับวงแหวนโฟกัสแบบแมนนวลได้สะดวก ความนุ่มนวลของการปรับอยู่ในระดับดี ระบบโฟกัสเป็นแบบเลื่อนเฉพาะชุดเลนส์ภายใน (IF) หน้าเลนส์ไม่หมุนตามการโฟกัส ขับเคลื่อนชุดโฟกัสด้วยมอเตอร์อัลตร้าโซนิค โดยเลื่อนกลุ่มเลนส์ชุดท้าย
ส่วนหน้าของกระบอกขยายสโลปกว้างขึ้น เลนส์รุ่นนี้มีฮูดในตัว โดยใช้ฮูดโลหะสีเดียวกับกระบอก ดึงออกมาได้โดยไม่มีการล็อก แต่เมื่อดึงออกมาจนสุดแล้วเราสามารถล็อกฮูดกันเลื่อนไหลได้โดยหมุนฮูดทวนเข็มนาฬิกาเล็กน้อย ฮูดจะล็อกแน่น นับว่าออกแบบได้ดี แต่ถ้าจะให้ดีน่าจะล็อกตอนเก็บเข้าตำแหน่งปกติได้ด้วย ส่วนหน้าของฮูดหุ้มด้วยยางเพื่อป้องกันการกระทบกระแทก
โครงสร้างของเลนส์ดีมาก โดยวัสดุที่ใช้กับโครงสร้างเลนส์ภายนอกเป็นโลหะล้วน ทำให้เลนส์ดูแน่นหนาแข็งแรงและน้ำหนักของเลนส์ก็ไม่มากคือ 1,190 กรัม
ระบบออฟติคของเลนส์รุ่นนี้ประกอบด้วยชิ้นเลนส์ 15 ชิ้น จัดเป็น 11 กลุ่ม ใช้ชิ้นเลนส์พิเศษแบบ UD จำนวน 2 ชิ้นที่ตำแหน่งชิ้นที่ 2 และชิ้นที่ 5 โดยเลนส์ชิ้นหน้าสุดจะเป็นชิ้นป้องกัน ไม่มีผลต่อระบบออฟติค แต่แคนนอนนับรวมในโครงสร้างของจำนวนชิ้นเลนส์ด้วยการโค้ทผิวเลนส์เป็นแบบ SSC สีโค้ทเขียวเข้ม เลนส์ชิ้นหน้ามีขนาดเต็มกรอบ เลนส์ชิ้นท้ายอยู่ไม่ลึกเท่ารุ่น f/4 L ธรรมดา
ผลการใช้งาน
โดยส่วนตัวแล้วผมมีเลนส์ EF 300mm f/4L อยู่ และก็ใช้งานมานานเกือบสิบปีแล้ว คุณภาพที่ได้ก็นับว่าน่าพอใจ แต่ปัญหาก็คือเมื่อต้องการถือกล้องด้วยมือเปล่ากับความเร็วชัตเตอร์ที่ค่อนข้างต่ำ เช่น 1/60 วินาที หรือ 1/125 วินาที ผมจะขาดความมั่นใจว่าภาพที่ได้จะเบลอไหม ซึ่งผลที่ออกมาก็มักจะเบลอกว่า 50% ทำให้เสียโอกาสไปบ่อยๆ เมื่อได้ลองใช้ EF 300mm f/4L IS จึงพบว่าจุดที่เคยกังวลถูกแก้ไขได้ด้วยระบบ IS
ในการทดลองพบว่า ความเร็วชัตเตอร์ระดับ 1/60 วินาทีนั้น หากถือกล้องให้นิ่งตามมาตรฐาน จะได้ภาพคมชัดค่อนข้างแน่นอน การทำงานของระบบ IS อาจจะกระตุกๆ ในจังหวะแรกบ้าง แต่ก็ล็อกภาพได้นิ่ง ความเร็วในการโฟกัสยังดีมาก สามารถใช้ร่วมกับโหมด SERVO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจากการทดลองพบว่ามันแทรคตามการเคลื่อนที่ของซับเจ็คท์ได้เร็ว และแม่นยำดีทีเดียว
ในส่วนของความคมชัดนั้น ต้องนับว่าทำได้น่าพอใจ แน่นอนครับว่ายังเทียบเลนส์เทเลโฟโต้ระดับสุดยอดอย่าง EF 300 mm f/2.8L IS ไม่ได้ แต่ก็นับว่าดีพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ที่ f/4 ความคมชัดอยู่ในระดับดีมากทั้งกลางภาพและขอบภาพ แต่จะดีขึ้นอีกเล็กน้อยที่ f/5.6 และ f/8
เป็นเลนส์ที่ให้ความใส กระจ่าง สีสันดีมาก คุณภาพจะแตกต่างจากเลนส์เทเลซูมอย่าง 70-300mm ทั้งหลายอย่างพอสังเกตได้ไม่ยาก คอนทราสต์อยู่ในระดับค่อนข้างสูง ดิสทอร์ชันของเลนส์น้อยมาก เส้นบริเวณขอบภาพเรียบตรง ไม่มีบิดเบี้ยวเลย ส่วนอาการขอบภาพมืดนั้นปรากฏให้เห็นเมื่อใช้กับกล้องฟูลเฟรม โดยขอบภาพจะมืดกว่ากลางภาพ 0.5 สตอป ที่ f/4 แต่ไม่ปรากฏที่ f/5.6 การควบคุมแฟลร์อยู่ในระดับดี ให้ภาพใสแม้ถ่ายย้อนแสง ยกเว้นการถ่ายย้อนแสงตรงๆ จะเกิดแสงฟุ้งชัดเจนเช่นกัน
ในส่วนของการใช้งานนั้นต้องบอกว่าเวิร์คครับ ใช้สนุกและคล่องตัวอย่างยิ่ง ระบบ IS แม้จะไม่ไฮเทคเท่าเลนส์รุ่นใหม่ๆ แต่ก็มีประสิทธิภาพดี
Canon EOS 5D MARK II เลนส์ EF 300 mm f/4L IS ; 1/800 Sec f/4.0 , Mode : M, WB : Auto , JPEG L , ISO40
ความเห็น
สำหรับผู้ที่มีเลนส์ 300mm f/4L อยู่แล้ว คุณภาพของเลนส์รุ่นนี้ก็พอๆ กัน แต่จะได้ประโยชน์จากระบบ IS เพิ่ม แต่สำหรับผู้ที่กำลังมองหาเลนส์เทเลโฟโต้สำหรับการถ่ายภาพ WILDLIFE นี่คือเลนส์ที่คุ้มค่าน่าใช้รุ่นหนึ่ง หลายท่านที่มีเลนส์ EF 70-200mm f/2.8L อยู่มักจะไม่สนใจเลนส์รุ่นนี้เพราะเห็นว่าซื้อ TC 1.4X มาใช้ก็เหมือนๆ กัน แต่จากการลองพบว่ามันยังต่างกันค่อนข้างชัดครับ หากเน้นคุณภาพ EF 300 mm f/4 น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า
   
EF 300 mm F/4L IS USMEOS 5D Mark II
   
โครงสร้างออฟติค: ชิ้นเลนส์ 15 ชิ้น จัดเป็น 11 กลุ่ม
มุมรับภาพ: 8° - 15°
ปรับโฟกัสใกล้สุด: 1.5 เมตร
ขนาดฟิลเตอร์: 77 มม.
ขนาดเลนส์: 90 X 221 มม.
น้ำหนัก: 1190 กรัม

ขอบคุณแหล่งที่มา : http://goto.canon.co.th/eosclub/reviews/detail.php?id=118

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น