สำหรับท่านที่ไม่เคยถ่ายภาพมาก่อน อาจจะต้องเสียเวลาศึกษาพื้่นฐานของการถ่ายภาพตรงนี้นิดนึงนะครับ
แต่เป็นพื้นฐานที่ถ้าเข้าใจแล้ว สามารถนำไปใช้ได้ตลอด
- ความไว Shutter (Shutter Speed)
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ shutter speed เปรียบเหมือนการกระพริบตาของเรา ถ้าเรากระพริบตาเร็วๆ ปริมาณแสงที่เข้า
ไปยังดวงตาของเราก็จะน้อยลง shutter speed จะมีค่าเป็นวินาที เช่น 1/250 หมายถึง ความเร็ว 0.004 วินาที
หรือ 1/2000 หมายถึงความเร็ว 0.0005 วินาที (เร็วมากๆๆ) ซึ่งความเร็ว shutter สูงๆ จะใช้สำหรับหยุดการเคลื่อน
ไหว เช่นการถ่ายภาพรถแข่ง การถ่ายภาพหยอดน้ำ การถ่ายภาพเด็กซนๆ ที่ต้องการให้ภาพหยุด ณ วินาทีนั้น
ส่วนค่า shutter speed ที่ช้าๆ เช่น 1" , 15"
** 1" หมายถึง 1 วินาที จะใช้ในกรณีที่ต้องการให้ภาพมีความเคลื่อนไหว หรือ ภาพที่มีแสงน้อยๆ เช่น ถ่ายภาพน้ำตก ถ่ายภาพวิวเวลากลางคืน เป็นต้น
- ค่ารูรับแสง (Aperture value)
เหมือนการที่เราหรี่ตาเวลาที่อยู่กลางแดดจ้าๆ และลืมตา กว้างเวลาที่เราอยู่ในที่มืดๆ เพื่อให้ตาเรารับแสงได้พอดี โดยส่วนใหญ่มักจะเรียกค่าเป็น F-Stop และจะมีค่าเป็น เลขยกกำลังของ เช่น เลนส์ที่ F กว้างๆ อย่าง F1.4 มาจาก ยกกำลัง 1 = 1.4 นั่นเอง ถ้าเลขยิ่งน้อย ขนาดของรูรับแสงยิ่งกว้าง ดังภาพ | ||||||||
- ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วชัตเตอร์กับขนาดรูรับแสง
การตั้งความเร็วชัตเตอร์และขนาดรูรับแสง ต้องมีความสัมพันธ์กัน เพื่อให้ได้ปริมาณแสงที่พอเหมาะในการบันทึกภาพ ซึ่งในสภาพแสงเดียวกัน และเลือกค่าความไวแสงเท่ากัน สามารถตั้งค่าที่เหมาะสมได้หลายค่า ตามตัวอย่าง เช่น
|
ความเร็วชัตเตอร์ | ขนาดรูรับแสง |
1/4000 | f/1.4 |
1/2000 | f/2 |
1/1000 | f/2.8 |
1/500 | f/4 |
1/250 | f/5.6 |
1/125 | f/8 |
1/60 | f/11 |
1/30 | f/22 |
- การตั้งความเร็วชัตเตอร์และขนาดรูรับแสง
การเลือกคู่ที่เหมาะสมตามตัวอย่างในหัวข้อ ความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วชัตเตอร์กับขนาดรูรับแสง ให้พิจารณาได้จากปัจจับต่างๆ ดังนี้
1. ความเร็วในการเคลื่อนที่ของวัตถุที่จะถ่าย
วัตถุที่เคลื่อนที่เร็ว แต่เราต้องการภาพชัด ต้องใช้ความเร็วชัตเตอร์สูงสุดเท่าที่กล้องจะทำได้ แต่ถ้าเป็นวัตถุที่อยู่นิ่งนั้น สามารถเลือกความเร็วชัตเตอร์เท่าไรก็ได้
2. ความชัดลึกของวัตถุที่จะถ่าย
ขนาดรูรับแสงเล็ก เช่น f/22 จะให้ความชัดลึกมากกว่าขนาดรูรับแสงกว้าง เช่น f/1.4 ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญมากในการถ่ายภาพระยะใกล้ หรือใช้เลนส์ถ่ายไกลในการถ่ายภาพ
- การชดเชยแสง
เป็นการปรับปริมาณแสงในการบันทึกภาพให้แตกต่างไปจากค่าที่ได้จากเครื่องวัดแสง เช่น การถ่ายภาพย้อนแสงนั้น ค่าที่ได้จากเครื่องวัดแสง มักจะได้ค่าที่ทำให้วัตถุค่อนข้างมืด การชดเชยแสง โดยเพิ่มแสงมากกว่าที่วัดแสงได้ หรืออีกกรณีหนึ่งคือ การถ่ายภาพวัถตุที่อยู่หน้าฉากหลังสีดำ ค่าที่ได้จากเครื่องวัดแสงมักจะได้ค่าที่ทำให้วัตถุค่อนข้างสว่างเกินไป การชดเชยแสงทำได้โดยลดแสงให้น้อยกว่าที่วัดแสงได้ เป็นต้น
- การเปลี่ยนความเร็วชัตเตอร์และขนาดรูรับแสงเพื่อชดเชยแสง
ในการชดเชยแสงนั้น นิยมปรับเปลี่ยน เพียงอย่างใดอย่างหนึ่งคือความเร็วชัตเตอร์ หรือ ขนาดรูรับแสง หลักการชดเชยแสงก็มีเพียงสองทาง คือ เพิ่มแสง หรือลดแสง
- การเพิ่มแสง
การปรับที่ความเร็วชัตเตอร์ คือ การลดความเร็วชัตเตอร์ลง เช่น วัดแสงได้ 1/500 วินาที เพิ่มแสง 1 ระดับก็ต้องตั้งความเร็วชัตเตอร์เป็น 1/250 ยึดหลักว่าถ้าชัตเตอร์ปิดช้าลงก็จะต้องได้แสงมากขึ้นแน่นอน หากเพิ่มแสงโดยปรับที่ขนาดรูรับแสงก็ต้องเพิ่มขนาดรูรับแสงให้ใหญ่ขึ้น เช่น วัดแสงได้ f/4 เพิ่มแสง 1 ระดับก็ต้องเปลี่ยนเป็น f/2.8
- การลดแสง
การปรับที่ความเร็วชัตเตอร์ คือ การเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ เช่น วัดแสงได้ 1/500 วินาที ลดแสง 1 ระดับ ก็ต้องตั้งความเร็วชัตเตอร์เป็น 1/1000 คือให้ชัตเตอร์ปิดเร็วขึ้นเท่าตัวนั่นเอง หากลดแสงโดยปรับที่ขนาดรูรับแสง ก็ต้องลดขนาดรูรับแสงให้เล็กลง เช่น วัดแสงได้ f/4 ลดแสง 1 ระดับ ก็ต้องเปลี่ยนเป็น f/5.6
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น