วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

Review - Canon 7D


ลักษณะเด่นของ Canon EOS 7D Canon EOS 7D ถือว่าเป็นกล้องที่อยู่ในระดับโปร ที่นักถ่ายภาพอยากได้กันมานานเลยก็ว่าได้ ด้วยการปรับปรุงพัฒนาให้มีคุณสมบัติในการใช้งานได้หลากหลายไปมากกว่า Canon 50D อย่างหายห่วง
เกือบจะกล่าวว่าพัฒนาเพิ่มให้อีกมากมายเมื่อเทียบกับ Canon EOS 50D การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เป็นการประมวลผลจากความต้องการของช่างภาพทั่วโลกกว่า 5,000 คน นำมาเป็นฐานในการพัฒนากล้อง EOS 7D


ตัวกล้อง เป็นแมกนีเซียมที่ Seal กันฝุ่น กันละอองน้ำ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสมบุกสมบันมากขึ้นกว่า EOS 50D ที่ไม่มีระบบ Seal
Image Sensor EOS 7D ติดตั้งเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS ขนาด APS-C ที่พัฒนาใหม่มีความละเอียดสูงถึง 18 ล้านพิกเซล
Image Processor ใช้ Dual DIGIG 4 Processor ซึ่งจัดว่ากล้องรุ่นนี้ เป็นกล้องตัวที่ 3 ของ Canon ที่ใช้ Image Processor เป็น Dual DIGIC 4 ที่มีความเร็วสูง ก่อนหน้านี้กล้องที่ใช้ Dual DIGIC 4 มีเพียง EOS 1D Mark III และ EOS 1Ds Mark III เท่านั้นที่ใช้ Image Processorแบบนี้ ซึ่งจะช่วยให้กล้องสามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อถ่ายภาพด้วยความเร็วสูง ให้ความแม่นยำ และทำให้ภาพมีคุณภาพที่สูงขึ้น

ความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง สามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้ด้วยความเร็วถึง 8 ภาพต่อวินาที
ความไวแสงสูงขึ้น Canon EOS 7D สามารถตั้งความไวแสงได้ตั้งแต่ ISO 100 ถึง ISO 6400 และสามารถเร่งได้ถึง ISO 12800 โดยมีสัญญาณรบกวนที่ต่ำ คงสีสันให้สดใสได้เป็นอย่างดี
ระบบ Auto Focus ปรับปรุงพัฒนาให้ใช้งานง่ายและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น ด้วยการใช้จุดโฟกัสภาพเป็น 19 จุด ทุกจุดโฟกัสเป็นแบบ Cross Type ที่มีเพิ่มให้ใช้มากขึ้นก็คือ ระบบ Auto Focus มีให้เลือกใช้จุดโฟกัสได้มากถึง 5 แบบด้วยกันคือ
Single AF ที่มีจุดโฟกัสให้เลือกได้ 19 จุด เป็นการเลือกจุดโฟกัสด้วยตนเอง
Spot AF เป็นการบีบจุดโฟกัสให้เล็กลงไปอีก เพื่อเพิ่มความแม่นยำในจุดที่ต้องการมากยิ่งขึ้น สามารถเลือกได้ทั้ง 19 จุด พื้นที่โฟกัสภาพจะเล็กกว่า Single AF เลือกจุดโฟกัสด้วยตัวเอง
AF point Expansion เป็น Mode โฟกัสที่ใช้ในกรณีที่สภาพแสงไม่ค่อยอำนวยทำให้การโฟกัสภาพยาก ถ้าเลือกเป็นระบบนี้จุดโฟกัสจะทำงานร่วมกับจุดโฟกัสข้างเคียงเพื่อให้การโฟกัสภาพทำได้ง่ายขึ้น เป็นการเลือกจุดโฟกัสเอง
Zone AF เป็นการเลือกจุดโฟกัสเป็นพื้นที่ เพื่อทำให้การโฟกัสง่ายขึ้น เลือกเป็น Zoneได้ 5 Zone

Auto Select 19 จุด AF ในระบบนี้จุดโฟกัสภาพทั้ง 19 จุดจะทำงานโดยอัตโนมัติ
การตั้งเลือกระบบจุดโฟกัสภาพสามารถตั้งเลือกการปรับตั้งได้ที่ Custom Function III และทำการเลือกได้อย่างรวดเร็วได้ด้วยปุ่ม [Q] ด้านหลังของกล้อง ทำการเลือกที่ช่องจุดโฟกัส กดปุ่ม SET จะมีเมนูย่อย กดเลือกได้ด้วยปุ่ม [M-Fn] เหนือปุ่มชัตเตอร์
ระบบวัดแสง มีการพัฒนาระบบวัดแสงเพิ่มมากขึ้นอีก 2 รูปแบบ คือ ระบบวัดแสงแบบ The Focus Colour Luminance Metering System ซึ่งเป็นการประมวลผลร่วมกับระยะทางในการโฟกัสภาพ สีของภาพ และความสว่างของภาพมาประมวลผลเป็นค่าวัดแสงในการใช้งานเพิ่มความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
การพัฒนาอีกประการหนึ่งนั่นคือการใช้ Metering Sensor ใหม่เป็น Dual Layer Sensor วัดแสงเป็น 64 พื้นที่ สัมพันธ์กับจุดโฟกัสภาพ ควบคุมการวัดแสงเป็น 2 Layer คือ Layer หน้าว่องไวต่อแสงสีแดงและแสงสีเขียว Layer หลัง ว่องไวต่อแสงสีน้ำเงินและแสงสีเขียวนำมาเปรียบเทียบประมวลผลทั้ง 2 Layer ปรับเป็นค่าวัดแสงที่จะให้ความเที่ยงตรงมากยิ่งขึ้น

Live View ระบบ Live View แสดงบนจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียดสูง 920,000 พิกเซล จอ LCD เป็นแบบ Clear view II เช่นเดียวกับที่ใช้ใน EOS 5D Mark II ดูได้ชัดเจน มุมกว้าง 160 องศา ความสว่างปรับได้อัตโนมัติตามสภาพแวดล้อม ระบบโฟกัสภาพเลือกได้ 3 แบบ คือLive mode เป็นระบบโฟกัสอัตโนมัติด้วยการอ่านความเปรียบต่าง มีความรวดเร็วในการโฟกัสพอใช้ได้ ระบบ Face Live mode เป็นระบบโฟกัสอัตโนมัติเช่นเดียวกับ Live mode แต่เน้นที่ใบหน้าคน และระบบ Quick mode เป็นระบบโฟกัสเร็ว ที่กล้องจะทำงานด้วยการยกกระจกโฟกัสภาพ

ระบบถ่ายภาพวิดีโอ ในกล้อง EOS 7D ได้ติดตั้งระบบถ่ายภาพ วิดีโอ มาให้ใช้งานเป็นระบบ Full HD ที่มีความละเอียดสูง พร้อมบันทึกเสียง และสามารถต่อไมโครโฟนภายนอกได้อีกด้วย ตั้งความละเอียดภาพได้ 3 ระดับ และสามารถเลือกจำนวนภาพต่อวินาทีได้อีกหลายรูปแบบ
การใช้งานกับระบบ Live View ได้รับการปรับปรุงให้ใช้งานง่ายขึ้นด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียว คือปุ่ม [Start Stop] ที่มีก้านสลักที่ใช้ผลักเพื่อเลือกว่า การถ่ายภาพนิ่ง หรือ ถ่ายภาพวิดีโอ เมื่อต้องการใช้ระบบ Live View ก็กดปุ่มนี้ ถ้าสลักอยู่ที่รูปกล้องก็จะเป็นการเข้าสู่การถ่ายภาพนิ่ง แต่ถ้าสลักผลักไปที่รูปกล้องวิดีโอ ก็จะเข้าสู่ระบบการถ่ายภาพวิดีโอทันที เมื่อต้องการถ่ายภาพวิดีโอก็กดปุ่ม การถ่ายภาพวิดีโอก็จะเริ่มทันที ถ้าต้องการหยุดก็กดซ้ำการถ่ายก็จะหยุด สามารถเปิดภาพดูได้ทันที

aoodTue Dec 13 2011 10:23:09 GMT+0700 (ICT)


  • แฟลชติดกล้อง สำหรับกล้องรุ่นนี้มีแฟลชติดกล้องมาให้ใช้งานซึ่งมีการ Up Grade ใหม่คุมความกว้างได้ถึงเลนส์ 16 มมที่สำคัญก็คือ ระบบแฟลชมีให้ใช้ได้หลากหลาย สามารถใช้สั่งงานแฟลชภายนอกแบบไร้สายได้เมื่อใช้กับแฟลชตั้งแต่รุ่น 580EX การสั่งใช้งานนั้นสามารถเข้าไปเลือกตั้งได้ในเมนูการปรับตั้งกล้องโดยเลือกที่ Flash Control เข้าเมนูย่อยเลือกที่ Build-in flash func. Setting ก็จะเข้า Sub menu ต่อไป เลือกที่ Wireless func. ซึ่งจะมีให้เลือกได้อีกว่าจะใช้แฟลชติดกล้องพร้อมแฟลชภายนอกตั้งเป็นอัตราส่วนก็ได้ หรือจะเลือกใช้เป็นGroup แฟลชก็ได้ ซึ่งเพิ่มสมรรถนะในการสร้างสรรค์ภาพได้มากยิ่งขึ้น

    มีเครื่องหมายระดับน้ำให้ใช้ หลายท่านที่ถ่ายภาพเอียงแล้วเอียงอีก แม้จะใช้ขาตั้งกล้องแล้วก็ยังไม่มั่นใจ กล้องรุ่นนี้มีระดับน้ำสำหรับการตั้งกล้องกับขาตั้งกล้องให้ใช้งานแล้วครับ การเรียกระดับน้ำขึ้นมาใช้งานก็ไม่ยากเย็นอะไร เพียงแต่กดปุ่ม [INFO] ซึ่งจะแสดงข้อมูลการปรับตั้งกล้องไว้ให้ดู กดซ้ำอีกครั้ง ก็จะปรากฏระดับน้ำให้ใช้งานแล้วครับซึ่งสามารถดูได้ทั้งแนวนอนและ การก้มเงยของกล้องซึ่งแสดงเป็นเส้นระดับก้มเงย หรือในแนวราบจะขึ้นเป็นเส้นสีแดง ถ้ากล้องตั้งได้ระดับเส้นสีแดงจะเปลี่ยนเป็นเส้นสีเขียว

    ปุ่มใช้งานมากขึ้นแต่สะดวกขึ้น ในกล้อง Canon EOS 7D สิ่งที่เปลี่ยนไปที่ชัดเจนอีกประการหนึ่งก็คือปุ่มใช้งานนั้นมีมากขึ้น จนสำหรับคนที่เพิ่งใช้ใหม่ๆ อาจจะตกใจ แต่ความจริงแล้วปุ่มที่เพิ่มขึ้นมากลับเพิ่มความสะดวกในการปรับตั้งกล้องโดยไม่ต้องเข้าเมนู ปุ่มเหล่านี้คือปุ่มShort Cut เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการปรับตั้งเมื่อต้องการ ปุ่มที่น่าสนใจได้แก่

    [Q] เป็นปุ่มสำหรับกดเพื่อเปิดจอ LCD หลังกล้องแสดงข้อมูลเพื่อปรับตั้ง สามารถปรับตั้งได้ตั้งแต่ ความไวชัตเตอร์ รูรับแสง ความไวแสงในการถ่ายภาพ ค่าชดเชยแสงถ่ายภาพคร่อม การชดเชยแสงแฟลช เลือกระบบจุดโฟกัส เลือก Picture Style ตั้งระบบ White balanceเลือกระบบวัดแสงที่มีให้เลือกได้ 4 ระบบ เลือกตั้งระบบ Auto Optimizer รวมทั้งตั้งความละเอียดของภาพถ่าย
    [RAW JPEG] ปุ่มนี้คงเป็นที่ถูกใจสำหรับหลายท่านที่ปกติชอบถ่ายภาพแบบ JPEG แต่หลายครั้งที่เจอบางภาพต้องการเก็บ RAW fileไว้ด้วยแต่ต้องเข้าไปตั้งในเมนู แต่ใน EOS 7D มีปุ่ม [RAW JPEG] ซึ่งถ้ากดแล้ว จะเป็นการตั้งเข้าการถ่ายภาพแบบ RAW+JPEG ทันที เมื่อต้องการกลับเข้าเป็น JPEG อย่างเดียวก็เพียงกดซ้ำเท่านั้น
    [Start Stop] ปุ่มนี้ได้กล่าวไว้แล้วในตอนต้นทำให้การใช้ Live View ง่ายและสะดวกขึ้น รวมทั้งสลักเลือกการถ่ายภาพนิ่งหรือภาพวิดีโอที่เข้าใจได้ง่ายๆ

    จุดเด่นอีกประการหนึ่งสำหรับกล้องรุ่นนี้ที่แสดงออกถึงความเป็นมืออาชีพก็คือสามารถที่จะบันทึกความเป็นลิขสิทธ์ลงในภาพถ่ายได้อีกด้วย
    นอกจากนี้ที่เห็นได้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปก็คือ สวิทช์ปิดเปิดการทำงานของกล้องได้ย้ายตำแหน่งไปไว้ที่ฐานของแหวนปรับตั้งระบบถ่ายภาพด้านซ้ายมือ สำหรับสลักเดิมที่เป็นทั้งสวิทช์ปิดเปิดและปิดการทำงานของแหวนปรับตั้ง เหลือเป็นเพียงสลัก Lock การทำงานของแหวนปรับตั้งหลังกล้องเท่านั้น
    ทั้งหมดนี้คือ สิ่งใหม่ๆ ที่เปลี่ยนไปของ Canon EOS 7D ที่ต่างไปจาก EOS 50D อย่างไม่เหลียวหลังเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าจุดเด่นที่เคยมี ก็มีครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบถ่ายภาพที่มีครบ ทั้ง M, Av, Tv, P และ Full Auto สิ่งที่ขาดหายไปก็คือ Scene mode ซึ่งหลายต่อหลายคนก็ไม่ได้ใช้งาน
    แบตเตอรี่ที่ใช้กับกล้องรุ่นนี้คือ LP-E6 ซึ่งสามารถอ่านความพร้อมของแบตเตอรี่ได้ในกล้อง

    ทดลองใช้งาน
    EOS 7D มีความกระชับมือที่ดีมากในการจับถือ กริบจับถือใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ EOS 50D ทำให้การจับถือมั่นคงกว่า การปรับตั้งระบบของกล้องสามารถทำงานได้ด้วยความรวดเร็วทันต่อความต้องการ ความทนทานของกล้องที่ต้องผจญกับหมู่ช่างภาพทั้งหลายดีมาก
    การแยกปุ่มสวิทช์ออกจากปุ่มที่เคยใช้ร่วมกับปุ่ม Lock แหวนปรับตั้งด้านหลังกล้อง สะดวกในการใช้มากกว่า เพราะหลายครั้งปุ่มแบบเดิม ถ้าผลักไม่สุดจะเป็นการไปล็อคการทำงานของแหวนปรับตั้งทำให้ต้องกลับมาผลักสลักให้สุดใหม่ การแยกทำให้สะดวกมากกว่า
    ระบบโฟกัสภาพเพิ่มความสะดวกมากขึ้น แม้ในยามที่สภาพแสงไม่อำนวยก็เปลี่ยน mode โฟกัส เพื่อให้ระบบโฟกัสทำงานได้ดีขึ้น การเปลี่ยน mode โฟกัสทำงานได้รวดเร็วด้วยปุ่ม [Q] ที่ช่วยได้มากโดยไม่ต้องเข้าเมนู
    การถ่ายภาพที่ความไวแสงสูง กล่าวได้ว่า ที่ ISO 100-400 สบายมากไม่ปรากฏ Noise ที่นาทึ่งก็คือที่ความไวแสง ISO 800 ก็แทบไม่ปรากฏ noise แต่ในการถ่ายภาพครั้งนี้หลายครั้งที่ต้องถ่ายภาพที่ความไวแสงสูงระหว่าง ISO 1600-3200 พบว่าถ้าสภาพแสงค่อนข้างดีNoise ก็ยังต่ำมาก แต่ถ้าสภาพแสงไม่ค่อยอำนวย หรือถ่ายภาพติด under พบว่า noise จะมีมากขึ้น สำหรับการถ่ายภาพที่ ISO 6400 พบว่ามี noise ปรากฏ เมื่อดูที่ความคมชัดพบว่าที่ ISO 3200-6400 ความคมชัดลดลงบ้างเล็กน้อย เมื่อเทียบกับภาพถ่ายที่ ISO 100-1600

    รายละเอียดของภาพ พบว่ากล้องรุ่นนี้สามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้ดีมาก แม้ขยายภาพใหญ่ก็ยังคงรายละเอียดในภาพได้เป็นอย่างดี
    ในเรื่องสีสันของภาพพบว่า ภาพถ่ายที่ความไวแสงทุก ISO มีความสดใสของสีที่ดีมาก สีสันเมื่อเทียบเคียงกันมีความคงที่เกือบทุก ISO
    การใช้งานในระบบ Live View ให้ความสะดวกและรวดเร็วดี แต่ถ้าต้องการการโฟกัสภาพได้รวดเร็ว ควรใช้ในระบบ Quick mode
    สำหรับระบบการถ่ายภาพวิดีโอ ใช้งานได้ง่ายครับ ด้วยปุ่มเพียงปุ่มเดียว เมื่อเข้าระบบแล้ว เพียงกดถ่าย และกดหยุดเมื่อต้องการหยุด ก็ได้ภาพแล้ว คุณภาพความคมชัดและการเก็บรายละเอียดดีมากในระบบ Full HD ภาพถ่ายไม่ปรากฏอาการกระตุก หรือวูบวาบเมื่อมีการแพนกล้อง น่าใช้ครับ
    ความสิ้นเปลืองพลังงานสำหรับกล้องรุ่นนี้ ถือว่าดีมากเลย แบตเตอรี่ชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ถ่ายภาพได้พันกว่าภาพสบายมาก แถมด้วยการสลับถ่ายภาพวิดีโอเป็นครั้งคราว (ไม่มีการใช้แฟลชติดกล้อง)
    วันนี้ถ้าคุณต้องการยกระดับคุณภาพ และต้องการกล้องที่มีสมรรถนะที่สูงในการใช้งานถ่ายภาพ Canon EOS 7D เป็นกล้องที่ถือว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ได้เป็นอย่างดีครับ




    ที่มา : http://camerartmagazine.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น