Review - Nikon D5000

Nikon ขยับตัวอีกครั้งเมื่อมีการออกกล้อง D-SLR รุ่นใหม่สำหรับนักถ่ายภาพรุ่นใหม่ที่เริ่มหันมาถ่ายภาพด้วยกล้อง  D-SLRในชื่อรุ่นว่า D5000 ผิดคาดจากนักเดากล้องรุ่นใหม่ของ Nikon ไปตามๆ กัน เนื่องจากกล้องรุ่นนี้มีรหัสกล้องเป็นเลข 2 หลัก

แต่ถ้าพิจารณาแล้วก็ไม่น่าเป็นเรื่องแปลกเพราะรหัสกล้องที่เป็นเลข 4 หลักก็มีออกมาตั้ง D40, D50, D60, D70, D80 จนชน D90 แล้ว ถ้าเป็นกล้องสำหรับผู้เริ่มต้นใช้ D-SLR แล้วก็คงจะต้องเริ่มหลักตัวเลขกล้องในรหัสใหม่เหมือนกัน

            แต่ D5000 แม้ว่าจะเป็นกล้อง D-SLR ที่ออกแบบมาสำหรับคนรุ่นใหม่ที่กำลังริเริ่มหันมาใช้กล้อง D-SLR แต่ก็มีสมรรถนะของกล้อง D-SLR ระดับสูงไว้ให้ใช้งานครบครัน รวมทั้งได้เสริมสิ่งใหม่ๆ ที่สนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ๆ ไว้ให้ใช้งานอย่างจุใจ

ลักษณะเด่นของ Nikon D5000

            Nikon D5000 ถูกออกแบบไว้สำหรับนักถ่ายภาพรุ่นใหม่ที่เพิ่งเข้ามาใช้งานกับกล้อง D-SLR ดังนั้นการออกแบบกล้องรุ่นนี้แม้ดูเผินๆ จะมีความคล้ายคลึงกับกล้องในรุ่น 40D แต่ในความเป็นจริงนั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่มากหลายประการที่อำนวยความสะดวกให้กับมือใหม่ที่เพิ่งใช้กล้องD-SLR ตั้งแต่การใช้งานง่าย ปรับตั้งง่าย และฟังชั่นหลายประการที่คนเคยใช้กล้องคอมแพคมาก่อนก็สามารถใช้งานกับกล้องรุ่นนี้ได้ทันที ที่สำคัญก็คือมีระดับราคาที่ไม่แพงเพียงสามหมื่นกว่าเท่านั้น

            กล้องรุ่นนี้ผมอยากกล่าวว่าได้นำสิ่งเด่นๆ ของกล้อง Nikon D90 นำมาใส่ในกล้องที่กะทัดรัดกว่า D90 แถมการใช้งานที่ง่ายมาขึ้น ตั้งแต่การติดตั้ง เซ็นเซอร์ CMOS ขนาด APS-C ที่มีความละเอียด 12.3 ล้านพิกเซลแบบเดียวกับ Nikon D90  มีจุดโฟกัสภาพแบบ 11 จุดแบบเดียวกันพร้อมด้วยระบบ AF 3D Tracking ที่เลือกตั้งได้ในเมนู จุดโฟกัสก็จะไล่ตามวัตถุได้ การประมวลภาพ 12 bit ทำให้การไล่เฉดสีมีความละเอียดมากยิ่งขึ้น

จุดเด่นสำหรับกล้องรุ่นนี้ที่น่าสนใจก็คือการนำเอาระบบถ่ายภาพเคลื่อนไหวติดตั้งมาให้ใช้งาน สำหรับคนที่ต้องการถ่ายภาพเคลื่อนไหวในระบบวิดีโอ ไม่ผิดหวังกับกล้องรุ่นนี้เลือกใช้งานได้เลย

            สิ่งที่น่าประทับใจสำหรับกล้องรุ่นนี้ก็คือ ระบบ Live View ที่มีให้ใช้งานเช่นกัน แต่ที่น่าสนใจก็คือ  กล้องที่มีระบบ Live View นั้น ส่วนใหญ่ที่พบในกล้อง D-SLR นั้น เมื่อใช้งานมุมต่ำหรือมุมสูงจะขาดความสะดวก เนื่องมาจากจอ LCD หลังกล้องถูกติดตายตัวขยับไม่ได้ ซึ่งข้อนี้มีกล้อง D-SLR บางค่ายได้เริ่มพัฒนาให้สามารถขยับปรับมุมก้มเงยได้ ซึ่งทำให้การใช้งานระบบ Live View มีประสิทธิ์มากยิ่งขึ้น และ Nikon D5000 ถือว่าเป็นกล้อง D-SLR รุ่นแรกของนิคอนที่จอ LCD หลังกล้องสามารถปรับองศาได้แล้วครับ แม้ว่าการออกแบบให้จอ LCD ปรับมุมได้จะทำให้จอมีขนาดเล็กลงบ้าเป็น 2.7 นิ้วแทนที่จะเป็น 3 นิ้ว แต่ใช้งานได้คล่องตัวกว่ากันมากเลยครับ

ทดลองใช้งาน Nikon D5000

            การลองใช้งานกับกล้อง Nikon D5000 ต้องถือว่ากล้องรุ่นนี้มีขนาดกะทัดรัดน้ำหนักเบาแต่ก็จับได้กระชับมือ คุณผู้หญิงสบายใจได้กับขนาดและน้ำหนักที่ไม่มาก กล้องที่นำมาทดลองการใช้งานเป็นกล้องชุด Kit ที่มาพร้อมเลนส์ AF-S Nikkor 18-55 mm. VR มีระบบลดการสั่นพร้อมใช้งาน

            การวางตำแหน่งปรับตั้งต่างสะดวกเข้าใจง่าย แหวนปรับตั้งระบบถ่ายภาพอยู่ด้านบนของกล้อง พร้อมด้วยปุ่มกดชัตเตอร์ที่มีแหวนสวิทช์ ด้านข้างเป็นปุ่ม Info สำหรับดูข้อมูลภาพ และปุ่มชดเชยแสง ซึ่งปุ่มนี้ใช้เป็นปุ่มสำหรับกดเมื่อต้องการปรับตั้งรูรับแสงด้วย

            ด้านหน้าซ้ายมือเป็นปุ่มถอดเลนส์ เหนือปุ่มถอดเลนส์เป็นปุ่ม Fn ที่ใช้เป็นปุ่มสำหรับการการเลือกปรับตั้งให้เป็นการถ่ายภาพประวิงเวลาและเป็นปุ่มสำหรับการตั้งถ่ายภาพทีละภาพหรือถ่ายภาพต่อเนื่องก็ได้ด้วยการปรับตั้งในเมนูสามารถเรียกใช้ได้ทันที เหนือขึ้นมาเป็นปุ่มเปิดแฟลชและใช้เป็นปุ่มตั้งการชดเชยแสงแฟลชได้ด้วย

ด้านหลังของกล้อง เป็นจอ LCD ที่ปรับเปลี่ยนมุมได้ 270 องศา ปรับก้มเงยได้ 180 องศา สามารถพับปิดจอ LCD ก็ได้ ด้านซ้ายมือมีปุ่มเรียงกัน จากบนลงล่างเป็นปุ่มลบภาพ ปุ่มแสดงภาพปุ่มเรียกเมนูปุ่มย่อภาพและเป็นปุ่ม Help เมื่อกดตามฟังชั่น จะแสดงข้อมูลสั้นๆ อธิบายไว้ให้ ถัดมาเป็นปุ่มขยายดูภาพ และที่น่าสนใจก็คือปุ่ม (i) ปุ่มนี้เป็นปุ่ม Short Cut เลยก็ว่าได้สำหรับการปรับต้องกล้องโดยไม่ต้องเข้าเมนูสามารถเรียกปรับตั้งได้ทั้งคุณภาพของภาพถ่าย WB, ISO ระบบประวิงเวลา ระบบถ่ายภาพต่อเนื่อง ระบบโฟกัส ระบบวัดแสดง ระบบถ่ายภาพคร่อม ระบบชดเชยแสง จุดโฟกัส เรียกว่าปุ่มเดียวปรับตั้งทันที

            ด้านขวามือของกล้องเป็นปุ่ม (Lv) เป็นปุ่มกดเพื่อเปิดระบบ Live View ซึ่งถ้าต้องการถ่ายภาพเคลื่อนไหวก็กดปุ่ม OK ที่ด้านข้างซึ่งเป็นปุ่มอยู่บนแหวนปรับตั้งสี่ทิศทาง กล้องก็จะดำเนินการถ่ายภาพเคลื่อนไหวแบบวิดีโอพร้อมบันทึกเสียงทันที สามารถบันทึกภาพได้ประมาณ 4 นาทีกว่าๆ ส่วนด้านล่างของแหวนสี่ทิศทางจะเป็นช่องลำโพงและไมโครโฟนบันทึกเสียง

อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่ากล้องรุ่นนี้ใช้ง่ายสำหรับมือใหม่ ด้วยการนำ Scene mode มาบรรจุไว้ให้ใช้งานด้วย ระบบScene modeเป็นระบบถ่ายภาพอัตโนมัติแบบต่างๆ อีก 13 แบบที่สามารถเข้าไปเลือกได้ในเมนูพร้อมด้วยรูปตัวอย่างให้เข้าใจง่าย ในการเลือกใช้งาน

ผลการทดลองใช้งาน

            การจับถือใช้งาน เป็นกล้องกะทัดรัด น้ำหนักเบา ติดตัวได้สบายมาก

            การปรับตั้งเมนู ใช้งานเข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน สามารถใช้ปุ่ม ( i ) เข้าปรับตั้งได้อย่างรวดเร็ว

            ความไวในการโฟกัสภาพ เนื่องจากกล้องรุ่นนี้ใช้งานได้เต็มรูปแบบการโฟกัสเมื่อใช้กบเลนส์ AF-S ในเรื่องการโฟกัสภาพทำได้รวดเร็วทันใจ แต่ถ้าใช้กับเลนส์ที่ไม่ใช่ AF-S จะต้องเป็น Manual focus ในระบบ Live View การโฟกัสภาพจะช้าลงเนื่องจากกล้องจะปรับระบบโฟกัสเป็นการอ่านจากความเปรียบต่างแทน

            ความคมชัด การเก็บรายละเอียดภาพ และสีสันของภาพ พบว่ากล้องรุ่นนี้ให้ความคมชัดดี แต่ที่ ISO 3200 หรือเร่งเป็นISO 6400 พบว่าความคมชัดลดลง และรายละเอียดในภาพลดลง สีสันของภาพสดใสสมจริงเป็นธรรมชาติ การไล่ระดับสีคงที่ดีตั้งแต่ ISO 200-3200 พบว่ามีสีที่คงที่ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะลดหรือเร่ง ISO

            สัญญาณรบกวน Noise หรือสัญญาณรบกวนภาพ พบว่า เมื่อถ่ายภาพที่ ISO 200, 400 หรือลด ISO เป็น 100 พบว่าภาพไม่ปรากฏ Noise ถ่ายภาพที่ ISO 800 ก็แทบจะไม่เห็น Noise ภาพถ่ายที่ ISO 1600 พบว่ามี Noise บ้างแต่ต่ำมาก แต่ภาพถ่ายที่ ISO 3200 มี Noise ปรากฏแต่ลักษณะของ Noise มีลักษณะที่คล้ายกับเกรนภาพ ซึ่งถือว่าใช้งานได้อย่างสบายใจได้เลยครับ

            กล่าวโดยรวม Nikon D5000 นับว่าเป็นกล้องที่น่าใช้อีกรุ่นหนึ่งสำหรับนักถ่ายภาพรุ่นใหม่ที่กำลังก้าวเข้ามาใช้งานกับ D-SLR แทนกล้องคอมแพค ใช้งานง่าย คุณภาพรูปถ่ายก็ OK เลยครับ ความละเอียดของภาพบอกได้ว่า ขยายภาพขนาด 20x30นิ้ว ได้สบายครับถ้าคุณต้องการขยายภาพใหญ่ วันนี้กล้องรุ่นนี้มีวางตลาดแล้วครับ เลือกชมได้ที่ร้านจำหน่ายกล้องชั้นนำ หรือที่ บริษัท นิคส์ ไทยแลนด์ จำกัด

ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://camerartmagazine.com/index.php/product-review/slr-camerar-review/136-reviewnikond5000d-slr