วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

Review - Nikon D4


Nikon D4 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS แบบฟูลเฟรม ขนาด 36.0 × 23.9 มม. ระบบประมวลผลความเร็วสูง EXPEED 3   รุ่นใหม่ล่าสุด ด้วยคุณสมบัติเพียบพร้อมไปด้วยสุดยอดความสามารถและฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ให้ภาพที่มีความละเอียดสูงสุด 16.2 ล้านพิกเซล อัดแน่นไปด้วยรายละเอียดของทุกอณูภาพ ทำงานด้วยความเร็วสูง ให้คุณภาพของภาพที่เหนือกว่า ภายใต้ความหลากหลายของสภาพแสง ด้วยช่วงของความไวแสงมาตรฐานที่ ISO 100 ถึง ISO 12800 และสามารถขยายช่วงความไวแสงเพิ่มเติมขึ้นไปอีกจาก ISO 50 ถึง ISO 204800



เซ็นเซอร์วัดแสง RGB รุ่นใหม่ขนาด 91,000 พิกเซล สนับสนุนระบบ Advanced Scene Recognition System ซึ่งสามารถตรวจจับใบหน้าบุคคลผ่านช่องมองภาพออพติคอลครอบคลุมการมองเห็น 100% ยิ่งไปกว่านั้น ระบบ Advanced Scene Recognition System ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมแฟลช AF, AE, i-TTL ให้ทำงานแม่นยำยิ่งขึ้น รวมถึงควบคุมการปรับสมดุลแสงสีขาวโดยอัตโนมัติ (AWB) ให้มีความแม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนระบบออโต้โฟกัส 51 จุดโฟกัส (51 Focus point AF system) ก็ได้รับการปรับปรุงให้ทำงานเร็วขึ้นด้วยเซ็นเซอร์โฟกัสรุ่นใหม่ Advanced Multi-CAM 3500FX และมีความสามารถในการจับภาพและโฟกัสวัตถุได้ในสภาวะที่มีแสงน้อยกว่าเดิมถึง -2EV นอกจากนี้ จุดออโต้โฟกัส 11 จุด ยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อมีการใช้เลนส์ที่มีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/8 ผลที่ออกมาจึงทำให้ระบบออโต้โฟกัสทำงานได้แม่นยำขึ้นเมื่อใช้เลนส์ Super-Telephoto NIKKOR คู่กับ AF-S Teleconverters TC-14E II, TC-17E II หรือ TC-20E III

ฟังก์ชั่น Multi-area Mode D-movie เป็นฟังก์ชั่นการบันทึกภาพยนตร์แบบ Full HD ที่ 30 fps และเลือกรูปแบบพื้นที่การบันทึกภาพยนตร์ได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ FX Format (1x), DX Format (1.5x) และ 1920×1080 crop (2.7x) เปรียบเสมือนมีเลนส์เทเลให้เลือกหลายตัวเพื่อสร้างสรรค์การบันทึกภาพยนตร์ได้ตามต้องการ และบันทึกภาพยนตร์และภาพนิ่งได้รวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อใช้เมมโมรี่การ์ดความเร็วสูง UDMA 7-compatible CompactFlash และเมมโมรี่การ์ดความเร็วสูงชนิดใหม่ High-speed XQD ที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลความเร็วสูงสุด 125MB/วินาที นอกจากนี้ยังมีช่องต่อสาย LAN ในตัวกล้องที่รองรับการถ่ายโอนข้อมูลภาพถ่ายความเร็วสูงและรองรับการถ่ายโอนภาพแบบไร้สายด้วยอุปกรณ์เสริม Wireless Transmitter WT-5 รุ่นใหม่ ขนาดกะทัดรัด  ใช้งานง่าย รองรับการสั่งงานผ่าน PC, iPhone, iPad เมื่อต่อเชื่อมการทำงานเข้ากับเครือข่ายในโหมด HTTP

Nikon D4 นี้ยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการทำงานใหม่ๆ อีกมากมายที่ทำให้การถ่ายภาพของช่างภาพ      มืออาชีพนั้นมีความคล่องตัวอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งยังอนุญาตให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มเติมข้อมูลจาก IPTC (International Press Telecommunications Council) ลงไปในภาพได้อีกด้วย
คุณสมบัติพื้นฐานของกล้องนิคอน รุ่น D4
~   กล้องดิจิตอลแบบฟูลเฟรม ที่มาพร้อมกับเซ็นเซอร์รับภาพ CMOS ใหม่ล่าสุด และช่วงความไวแสงกว้างถึง
กล้องดิจิตอล SLR รุ่น D4 มาพร้อมกับ Nikon FX - format เซ็นเซอร์รับภาพ CMOS แบบฟูลเฟรมใหม่ล่าสุด ขนาด 36.0 × 23.9 มม. ซึ่งพัฒนาและคิดค้นโดยนิคอน ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่เหนือกว่าของ เซ็นเซอร์รับภาพ CMOS แบบฟูลเฟรมทำให้สามารถบันทึกภาพความละเอียดสูงถึง 16.2 ล้านพิกเซล ด้วยช่วงของความไวแสงมาตรฐานที่ ISO 100 ถึง ISO 12800 และสามารถขยายช่วงความไวแสงเพิ่มเติมขึ้นไปอีกจาก ISO 50 ถึง ISO 204800 จึงทำให้ภาพมีความคมชัดสูง คุณภาพดีเยี่ยม แม้อยู่ภายใต้สภาพแสงที่มีความหลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลว่าคุณภาพของภาพถ่ายจะลดลงแต่อย่างใด

~   ระบบประมวลผลภาพใหม่ล่าสุด EXPEED 3 ที่มาพร้อมความสามารถที่เหนือกว่าด้วยความเร็วและไฟล์คุณภาพสูง
เครื่องมือประมวลผลภาพใหม่ล่าสุด EXPEED 3 ที่ติดตั้งในรุ่น D4 ให้คุณภาพของภาพที่ดีขึ้นและความเร็วของการประมวลผลที่เร็วยิ่งขึ้น ให้ภาพสีสันสดใสสมจริง และแสดงโทนสีได้อย่างหลากหลาย นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพในการยับยั้งสัญญาณรบกวนด้วยระบบตัดสัญญาณรบกวนขั้นสูงสำหรับภาพถ่ายที่ความไวแสงสูงภายใต้แสงสลัว ในขณะที่ยังคงรักษาความคมชัดของภาพไว้ได้อย่างดี พร้อมระบบลดสัญญาณรบกวน ที่ได้รับการออกแบบสำหรับโหมดการถ่ายภาพยนตร์ในที่แสงน้อยโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับการใช้งานในทุกสภาพแสง และใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ อันเป็นผลมาจากการออกแบบของกล้องที่เน้นการประหยัดพลังงานเป็นสำคัญ

~   เซ็นเซอร์รับภาพ RGB 91,000 พิกเซล สำหรับระบบ Advanced Scene Recognition System ที่ให้ความแม่นยำยิ่งขึ้น
กล้องนิคอนรุ่น D4 มีการติดตั้งระบบ Advanced Scene Recognition System ซึ่งสนับสนุนการทำงานของฟังก์ชั่นที่สามารถตรวจจับใบหน้าผ่านช่องมองภาพแบบออพติคอล ทั้งนี้ เซ็นเซอร์รับภาพ RGB 91,000    พิกเซล สามารถตรวจจับใบหน้ามนุษย์จากการตรวจจับโฟกัสที่ถี่ขึ้นเมื่อมีการใช้โหมดเลือกพื้นที่โฟกัสอัตโนมัติ Auto-area AF และโหมด AF-area mode เมื่อมีการตรวจพบใบหน้าบุคคลในเฟรมภาพ ระบบวัดแสง 3D Color Matrix Metering III จะเน้นให้ความสำคัญกับการวัดแสงใบหน้าบุคคล เพื่อให้ใบหน้าบุคคลที่มีความสว่างที่ถูกต้องแม้ถ่ายภาพในสภาวะย้อนแสง
นอกจากนี้เซ็นเซอร์วัดแสง RGB ที่มีความละเอียดสูงประมาณ 91,000 พิกเซล ที่ทำให้ผลการวิเคราะห์ฉากมีความแม่นยำมากขึ้น รวมถึงการควบคุมออโต้โฟกัสที่แม่นยำขึ้น และการเปิดรับแสงอัตโนมัติ การควบคุมแฟลชอัตโนมัติ i-TTL ตลอดจนการปรับสมดุลแสงสีขาวอัตโนมัติทำได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ทั้งนี้ ไม่มีการแสดงภาพในช่องมองภาพที่แสดงให้เห็นเมื่อใบหน้าคนหรือหลายคนได้รับการตรวจจับ

~   ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติ 51 จุดที่ทำงานได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น
ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติ 51 จุด ถูกติดตั้งในกล้อง Nikon D4 พร้อมฟังก์ชั่น Advanced Multi-CAM 3500FX Autofocus Sensor Module รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อการใช้งานระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ให้ภาพที่มีประสิทธิภาพดีภายใต้แสงสลัว
ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติ 15 จุดที่อยู่ตรงกลางของกรอบภาพเป็นเซ็นเซอร์แบบกากบาท หรือ Cross-type Sensors ที่สามารถที่ตรวจจับความแตกต่างของเฟสภาพทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ซึ่งระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติ 51 จุดจะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อมีการใช้เลนส์ขนาดรูรับแสงสูงสุดที่ f/5.6 ซึ่งเซ็นเซอร์แบบ Cross-type จะได้ประโยชน์สูงสุดจากความสามารถนี้ และการทำงานของระบบออโต้โฟกัสแม่นยำและรวดเร็วเมื่อใช้เลนส์ AF NIKKOR ทุกรุ่น แม้จะถ่ายภาพในสภาพแสงสลัวที่ต่ำเท่ากับ −2 EV (ISO 100, 20°C/68°F) ซึ่งเป็นระดับแสงที่เมื่อมองผ่านช่องมองภาพจะสามารถมองเห็นฉากได้ด้วยตามนุษย์เท่านั้น
ระบบปรับโฟกัสอัตโนมัติ 11 จุด (5 จุดตรงกลางและด้านข้างอีกด้านละ 3 จุด) จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเมื่อมีการใช้เลนส์ขนาดรูรับแสงสูงสุดที่ f/8 คุณสมบัตินี้จะให้การโฟกัสที่แม่นยำมากยิ่งขึ้นสำหรับการถ่ายภาพกีฬา และการถ่ายภาพที่ใช้เลนส์ Super-telephoto NIKKOR ร่วมกับ Teleconverter (2.0x) ที่มีค่าของ   รูรับแสงที่ f/8

การใช้งานอัลกอริทึมใหม่ช่วยให้การทำงานของระบบออโต้โฟกัสทำงานได้เร็วขึ้น ให้ภาพที่แน่นอนและคมชัดมากขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่ถ่ายภาพการแข่งขันกีฬาซึ่งสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องที่ความเร็วสูงที่ประมาณ 10 ภาพต่อวินาทีในฟอร์แมท FX ด้วยระบบ AF และระบบติดตาม AE tracking วัดค่าตามแนวทางของ CIPA ค่าของการถ่ายภาพในโหมด AF-C autofocus, [S] or [M] exposure mode    ความเร็วชัตเตอร์ที่ 1/250 หรือเร็วกว่า การตั้งค่าทั้งหมดอื่นๆ เป็นค่าเริ่มต้น

~   โหมด Multi-area Mode Full HD D-movie ที่มาพร้อมกับ 3 ทางเลือก ได้แก่ FX-based movie format*, DX-based movie format, หรือการครอปภาพขนาด 1920×1080 ที่ 30 fps/25 fps/24 fps
ปุ่มกดชัตเตอร์สำหรับโหมดถ่ายภาพยนตร์ ติดตั้งขึ้นในบริเวณที่ใกล้เคียงกับปุ่มกดชัตเตอร์เพื่อการเริ่มต้นและการหยุดถ่ายภาพยนตร์เป็นไปด้วยความง่ายดาย ให้ความรู้สึกที่ใกล้เคียงกับการถ่ายภาพนิ่ง รองรับการถ่ายภาพยนตร์ความคมชัดสูงแบบ Full HD ที่ขนาดภาพ 1920×1080 ที่ 30 ภาพต่อวินาที พร้อมกับรูปแบบการบีบอัดภาพวิดีโอ H.264/MPEG-4 AVC video compression method สามารถบันทึกภาพยนตร์ที่ได้ความยาวสูงสุด 29 นาที 59 วินาที ความไวแสงของเซ็นเซอร์รับภาพเริ่มต้นที่ ISO 100 และสามารถขยายได้ถึงมาตรฐาน ISO 204800 เทียบเท่าได้กับการถ่ายภาพนิ่ง
เมื่อมีการติดตั้งเลนส์ DX เข้าไป กล้องจะเลือกใช้ฟอร์แมท DX-based movie format โดยอัตโนมัติ มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับการสร้างสรรค์ส่วนขยายให้กับความยาวโฟกัสของเลนส์ที่มีอยู่เดิม และสำหรับเอฟเฟคต์เทเลโฟโต้ที่เพิ่มขึ้นขนาด x1.5 สำหรับฟอร์แมท 1920×1080 crop format จะทำการครอปภาพเทียบเท่าทางยาวโฟกัสเพิ่มขึ้น 2.7x  ให้คุณภาพของวิดีโอเต็มประสิทธิภาพที่ Full HD 1080p สามารถใช้งานร่วมกับเลนส์ NIKKOR FX และ DX ได้ทุกรุ่น
กล้อง Nikon D4 รองรับการเชื่อมต่อไมโครโฟนภายนอก ME-1 ที่ทำให้สามารถบันทึกเสียงในรูปแบบสเตอริโอและตัดเสียงรบกวน พร้อมช่องเสียบหูฟังแบบสเตอริโอเพื่อความสะดวกสำหรับการตรวจสอบเสียงวีดีโอได้ขณะบันนทึกภาพยนตร์ สเกลแสดงระดับเสียงบนหน้าจอมอนิเตอร์ขณะบันทึกวีดีโอ และสามารถปรับความไวของไมโครโฟนได้ขณะบันทึกภาพยนตร์
ภาพยนตร์ที่ได้จะถูกบันทึกในฟอร์แมท 16:9 เมื่อเลือกฟอร์แมทวีดีโอแบบ 1920×1080 หรือ 1280×720 แต่หากบันทึกภาพในขนาดภาพ 640×424 ที่ 30 เฟรมต่อวินาที และขนาดภาพ 640×424 ที่ 25 เฟรมต่อวินาที ภาพที่ออกมาจะเป็นฟอร์แมท 3:2

~   ขั้นตอนการเซ็ตอัพไปจนถึงการถ่ายโอนไฟล์ภาพทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
ขั้นตอนการถ่ายภาพจะทำได้เร็วขึ้นได้ด้วยกล้อง Nikon D4 ให้การตอบสนองที่เหนือกว่าด้วย Power-up time ที่ความเร็วสูงประมาณ 0.12 วินาที และ Shutter time lag ที่ประมาณ 0.042 วินาที นอกจากนี้ยังสนับสนุนเมมโมรี่การ์ดความเร็วสูงชนิดใหม่ XQD รองรับการบันทึกไฟล์ภาพแบบต่อเนื่องได้ที่ความเร็วสูง 10 เฟรม      ต่อวินาทีได้สูงสุดถึง 100 ภาพ ด้วยไฟล์ภาพฟอร์แมท RAW
ด้วยการติดตั้งช่องบรรจุเมมโมรี่การ์ดแบบสล๊อตคู่ สำหรับเมมโมรี่การ์ด XQD และอีกช่องสำหรับเมมโมรี่การ์ด CompactFlash ทำให้สามารถเก็บภาพต่อเนื่องได้อย่างฉับไว รวดเร็วยิ่งขึ้นในการถ่ายโอนข้อมูลภาพถ่ายด้วยความเร็วสูงไปยังคอมพิวเตอร์ เมื่อมีการใช้งาน XQD memory card reader ที่รองรับ SuperSpeed USB (USB 3.0)
ฟังก์ชั่น และฟีเจอร์อื่นๆ ที่มากับกล้อง Nikon D4
~   ชัตเตอร์มีความคงทนสูงสุด ผ่านการทดสอบการใช้งานกว่า 400,000 ครั้ง
~   ตัวกล้องทำจากแมกนีเซียม อัลลอย ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ซีลยางกันฝุ่นและละอองน้ำ
~   การซีลบริเวณรอยต่ออย่างมีประสิทธิภาพด้วยวงแหวนยางโอริง ป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ
~   โหมดชัตเตอร์เงียบสำหรับการถ่ายภาพแบบ Live View เพื่อลดเสียงดังของกระจกสะท้อนภาพเมื่อกด  ชัตเตอร์
~   การถ่ายภาพแบบ Time-lapse กำหนดจำนวนภาพและช่วงห่างเวลาในการบันทึกแต่ละภาพโดยอัตโนมัติเพื่อบันทึกเป็นภาพยนตร์ในแบบ Time-lapse ซึ่งสามารถเล่นได้ที่สปีด 24–36,000x ของความเร็วปกติ
~   ปรับปรุงประสิทธิภาพการควบคุมการทำงานให้สะดวกขึ้นสำหรับการถ่ายภาพแนวนอน (ถ่ายทิวทัศน์) และแนวตั้ง (ภาพบุคคล) โดยเพิ่มปุ่มเลือกจุดโฟกัสสำหรับการถ่ายภาพแนวตั้ง
~   ปุ่มการทำงานเรืองแสงได้เพื่อเพิ่มการมองเห็นสำหรับการทำงานในแสงสลัวหรือในความมืด
~   ช่องมองภาพประสิทธิภาพสูงแบบปริซึมห้าเหลี่ยม (PentaPrism) ครอบคลุมการมองเห็นได้เต็ม 100% และกำลังขยายประมาณ 0.7 เท่า
~   ออปชั่นเลือกถ่ายภาพนิ่ง 4 แบบ - FX (36×24), 5:4 (30×24), 1.2x (30×20), DX (24×16) – พร้อมกรอบภาพในช่องมองภาพที่ระบุพื้นที่ภาพที่เลือกใช้
~   จอภาพ LCD Monitor ขนาด 3.2 นิ้ว 921k พิกเซล แบบมุมมองกว้าง พร้อมลดช่องว่างระหว่างหน้าจอ LCD กับแผ่นกระจกเพื่อลดการสะท้อนแสงภายในเพิ่มการมองเห็นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
~   Virtual horizon ที่แสดงองศาที่กล้องเอียง ไม่ว่าจะเอียงไปด้านข้าง ด้านหน้าหรือด้านหลัง ซึ่งแสดงในจอภาพและช่องมองภาพ
~   สมดุลแสงสีขาวที่สามารถปรับอุณหภูมิสีได้เองละเอียดมากถึง10K ซึ่งสามารถระบุแยกต่างหากสำหรับการถ่ายภาพ (สมดุลสีขาวนำไปใช้กับภาพ) และจอภาพแสดงผลการถ่ายภาพนิ่งในโหมดดูภาพสด
อุปกรณ์เสริม
~   Wireless Transmitter WT-5 ใหม่ เครื่องส่งสัญญาณไร้สาย ขนาดกะทัดรัด
นิคอน D4 มีการติดตั้งพอร์ท Ethernet และฟังก์ชั่นสำหรับการเชื่อมต่อสาย LAN ที่สนับสนุนเครื่องส่งสัญญาณไร้สายขนาดกะทัดรัด WT-5 ใหม่ ทำให้เชื่อมต่อเข้ากับกล้องได้อย่างง่ายดาย สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลภาพถ่ายด้วยความเร็วสูงผ่านเครือข่ายไร้สาย พร้อมฟังก์ชั่นใหม่อีกมากมาย ที่ช่วยให้การทำงานของช่างภาพมืออาชีพเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงฟังก์ชั่นที่อนุญาตให้ผู้ใช้งานสามารถเพิ่มเติมข้อมูล IPTC (International Press Telecommunications Council) ลงไปในภาพได้อีกด้วย
นอกจากจะใช้งานตามมาตรฐาน IEEE 802.11a/b/c standards แล้ว WT-5 ยังสนับสนุนมาตรฐาน IEEE 802.11n (1x1) standard ใหม่ที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลได้เร็วขึ้นถึงสองเท่าเมื่อเทียบกับ WT-4 ส่วนโหมด HTTP server ของกล้องยังสามารถใช้เป็นที่แสดงรายชื่อภาพที่ถูกเก็บอยู่ในเมมโมรี่การ์ด ทั้งยังสามารถใช้งานพื้นฐานในการควบคุมกล้อง เช่น ไลฟ์วิว บันทึกภาพยนตร์ เป็นต้น ด้วยการใช้เว็บบราวเซอร์ในคอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟน
WT-5 ที่มีการปรับสัญญาณให้ตรงกัน สามารถใช้ควบคุมการปล่อยชัตเตอร์ของกล้องรุ่น D4 ซึ่งใช้ได้ถึง 10 ตัว โดยการตั้งค่าเป็น “Master”

~   ซอฟแวร์ปรับแต่งภาพ Capture NX 2 Ver 2.3
ซอฟต์แวร์ปรับแต่งภาพ Capture NX 2 Ver 2.3 เวอร์ชั่นให้ทดลองใช้และสามารถอัพเกรดได้ฟรี พร้อมนำเสนอฟังก์ชั่นการแก้ไขภาพที่ใช้งานง่าย ทำงานอย่างเป็นขั้นตอน ด้วยอัลกอริทึมการประมวลผลภาพที่เร็วขึ้น นอกจากนั้นยังมีการทำงานที่นุ่มนวลและเป็นธรรมชาติมากขึ้นด้วย เมื่อทำงานร่วมกันกับระบบปฏิบัติการ 64-bit


ขอขอบคุณแหล่งที่มา : http://camerartmagazine.com/index.php/product-review/slr-camerar-review/366-nikon-d4-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น